เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์

ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ ทำไมต้องสนใจเรื่องเงินกู้

ทุกวันนี้คนทำงานสายอิสระเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งกราฟิกดีไซเนอร์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ โปรแกรมเมอร์ ช่างภาพ ไปจนถึงแอดมินเพจ

ข้อดีคืออิสระ เลือกงานเอง เลือกเวลาทำงานเอง
แต่ข้อเสียใหญ่ที่ทุกคนรู้ดีคือ รายได้ไม่แน่นอน

บางเดือนงานเข้าไม่หยุด
บางเดือนเงียบกริบ แต่ค่าใช้จ่ายยังเดินเหมือนเดิม

ตรงนี้นี่แหละที่ทำให้หลายคนเริ่มสนใจ เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์
เพื่อเอาไปซื้ออุปกรณ์ ลงคอร์สเพิ่มฝีมือ หรือกันตัวเองไม่ให้เงินสะดุดในช่วงงานน้อย


เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์ คืออะไร

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลาพูดถึงการขอสินเชื่อ หลายคนจะคิดว่าต้องเป็นพนักงานประจำเท่านั้น
ต้องมีสลิปเงินเดือน หนังสือรับรองจากบริษัท

แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว
สถาบันการเงินเริ่มเข้าใจคนทำงานอิสระมากขึ้น
เลยมีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้คนที่ไม่มีสลิปเงินเดือนก็ยื่นได้

หัวใจของ เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์ คือ

  • ใช้ข้อมูลรายรับจริงจากบัญชีธนาคาร

  • ใช้ประวัติการโอนจากลูกค้า

  • ใช้หลักฐานการทำงาน เช่น สัญญาจ้าง ใบแจ้งหนี้ หรือใบเสร็จ

ไม่จำเป็นต้องมีเงินเดือนประจำ
แต่ต้องพิสูจน์ได้ว่ามีรายได้จริงและต่อเนื่องพอสมควร


ทำไมฟรีแลนซ์ถึงกู้ยากกว่าพนักงานประจำ

เหตุผลหลักเลยคือ “ความไม่แน่นอนของเงินเข้า”

รายได้ของฟรีแลนซ์มักขึ้นลงตามโปรเจกต์
เดือนนี้อาจจะเยอะ
เดือนหน้าอาจจะน้อย

ถ้าเราไม่จัดระบบบัญชีให้ดี ธนาคารก็จะไม่เห็นภาพรายได้ที่ชัดเจน
อีกอย่างคือ หลายคนยังใช้บัญชีเดียวกันสำหรับใช้ส่วนตัวและรับงาน
ทำให้แยกไม่ออกว่าตกลงรายได้จากงานจริง ๆ เท่าไร

ส่วนหนึ่งยังไม่ค่อยยื่นภาษี
หรือยื่นแบบไม่ตรงกับรายได้ที่เกิดขึ้นจริง
ก็ยิ่งทำให้สถาบันการเงินไม่มั่นใจ

มุมนี้เลยสำคัญมากสำหรับคนที่อยากกู้
คือการ “ทำตัวเองให้ดูเป็นมืออาชีพทางการเงิน” ก่อน


จัดระเบียบการเงินให้พร้อมกู้

ถ้าวันหนึ่งอยากใช้ เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์ แบบไม่เครียด
ควรเริ่มจากสิ่งเหล่านี้

แยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีงาน

เปิดบัญชีธนาคารอีกเล่มไว้รับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ
พอถึงปลายเดือนก็จะเห็นทันทีว่ารายได้จากงานฟรีแลนซ์จริง ๆ อยู่ที่เท่าไร

ให้ลูกค้าโอนแทนการรับเงินสด

การรับเป็นเงินสดทำให้ไม่มีหลักฐานในระบบ
ธนาคารมองไม่เห็นประวัติรายได้
ทางที่ดีคือขอให้ลูกค้าโอนผ่านบัญชีหรือวอลเลตต่าง ๆ ให้หมด

เก็บสเตทเมนต์และสรุปรายได้ทุกเดือน

ลองทำไฟล์เล็ก ๆ สรุปรายรับแต่ละเดือน
แนบชื่อโปรเจกต์ ลูกค้า และจำนวนเงิน
ถ้าวันไหนต้องยื่นขอกู้ เอกสารพวกนี้คือสิ่งที่ช่วยให้อนุมัติง่ายขึ้นมาก

ยื่นภาษีให้เป็นเรื่องปกติ

หลายคนกลัวคำว่าภาษี
แต่จริง ๆ แล้วเอกสารภาษีคือหลักฐานชั้นดีว่าเรามีรายได้จริง
สถาบันการเงินจะมองเราเป็นมืออาชีพมากขึ้นเยอะ


ประเภทเงินกู้ที่ฟรีแลนซ์ใช้ได้

สินเชื่อส่วนบุคคล

เป็นทางเลือกยอดนิยมของคนทำงานอิสระ
ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำ
ใช้รายได้จากบัญชีธนาคารและเอกสารประกอบอื่น ๆ

ถ้าบริหารดี ผ่อนตรงเวลา
ก็จะสร้างประวัติการเงินที่ดีให้ตัวเองในอนาคต

สินเชื่อออนไลน์จากฟินเทคและธนาคาร

ตอนนี้มีแอปที่ปล่อยกู้โดยดูข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้จ่ายและการเดินบัญชี
ข้อดีคือสมัครง่าย รู้ผลไว

แต่ต้องระวังเรื่องดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
อย่าลืมอ่านเงื่อนไขให้ครบก่อนกดตกลง

การใช้บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือ

บัตรเครดิตไม่ได้แย่ถ้าใช้เป็น
ฟรีแลนซ์จำนวนมากใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้ออุปกรณ์ทำงาน แล้วค่อยผ่อนชำระ

หลักสำคัญคือ

  • ไม่กดสด

  • ไม่ใช้ซื้อของฟุ่มเฟือย

  • จ่ายเต็มทุกงวดถ้าเป็นไปได้


กู้เท่าไรถึงจะเหมาะกับชีวิตฟรีแลนซ์

คำถามนี้ไม่มีตัวเลขตายตัว
แต่มีหลักคิดง่าย ๆ

หนึ่ง รู้รายได้เฉลี่ยของตัวเอง
ลองดูย้อนหลังอย่างน้อยหกเดือน
เพื่อให้เห็นภาพจริง ไม่ใช่แค่เดือนที่รายได้สูง

สอง กำหนดลิมิตว่าพร้อมผ่อนหนี้เดือนละไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้เฉลี่ย
ส่วนใหญ่ไม่ควรเกินหนึ่งในสาม

สาม อย่าลืมกันเงินสำรองเผื่อช่วงที่งานน้อย
เงินสำรองสามถึงหกเดือนของค่าใช้จ่ายพื้นฐาน จะทำให้ไม่เครียดเวลางานเงียบ

ถ้าคำนวณแล้วพบว่า กู้แล้วภาระผ่อนทำให้ชีวิตเกร็งเกินไป
อาจต้องลดวงเงิน หรือเลื่อนแผนออกไปก่อน


ใช้เงินกู้เพื่อ “โต” ไม่ใช่เพื่อ “ทน”

ประโยคสั้น ๆ ที่ช่วยเตือนใจได้ดีคือ

กู้เพื่อโต ไม่กู้เพื่อทน

หมายความว่า

  • กู้เพื่อซื้อของที่ทำให้สร้างรายได้เพิ่ม

  • กู้เพื่อพัฒนาทักษะให้คิดค่าตัวได้สูงขึ้น

  • กู้เพื่อขยายโอกาส เช่น เริ่มรับงานต่างประเทศ ต้องลงทุนเรื่องอุปกรณ์หรือคอร์สภาษา

แต่ไม่ควรกู้เพื่อ

  • ปิดรูรั่วจากการใช้จ่ายส่วนตัวที่เกินตัว

  • เอาไปใช้เที่ยวยาว ๆ

  • ซื้อของที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานเลย

ถ้าใช้เงินกู้ไปในทางที่สร้างรายได้
โอกาสที่หนี้จะกลายเป็นแรงส่งก็สูงมาก


ตัวอย่างภาพง่าย ๆ ให้เห็นผลของการลงทุนด้วยเงินกู้

ลองนึกภาพช่างภาพฟรีแลนซ์คนหนึ่ง
ตอนนี้ใช้กล้องเก่าที่ทำงานกลางคืนแล้วภาพไม่คม
ทำให้รับงานอีเวนต์กลางคืนได้น้อย

เขาตัดสินใจใช้ เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์ ซื้อกล้องใหม่และเลนส์ที่เก่งเรื่องถ่ายในที่แสงน้อย

ผลคือ

  • รับงานกลางคืนได้มากขึ้น

  • คิดค่าบริการสูงขึ้นเพราะคุณภาพงานดีขึ้น

  • ลูกค้าเดิมกลับมาใช้บริการซ้ำ และแนะนำต่อ

ในกรณีนี้ หนี้ที่เกิดขึ้นถูกจ่ายคืนด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุน
ไม่ใช่ไปเบียดค่าใช้จ่ายเดิม


ความเสี่ยงที่ห้ามมองข้าม

ถึงจะมีข้อดี แต่หนี้ก็ยังเป็นหนี้
ถ้าดูแลไม่ดีอาจกลายเป็นภาระยาวได้เหมือนกัน

สิ่งที่ต้องระวัง

  • กู้หลายที่โดยไม่ดูภาพรวม

  • ใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์

  • ปล่อยให้ยอดค้างจ่ายจนกลายเป็นประวัติเสีย

ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มตึง
อย่าหนี อย่าเงียบ
ควรติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือลดค่างวดก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย


สร้างอนาคตของฟรีแลนซ์ด้วยวินัยการเงิน

ในระยะยาว คนทำงานอิสระหลายคนไม่อยากเป็นฟรีแลนซ์ไปตลอด
บางคนอยากเปิดสตูดิโอของตัวเอง
บางคนอยากซื้อบ้าน ซื้อคอนโด

การเริ่มใช้ เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์ อย่างมีวินัยตั้งแต่วันนี้
ผ่อนตรงเวลา ไม่ค้าง ไม่เบี้ยว
คือการสร้างประวัติที่ดีให้ตัวเอง

เมื่อถึงวันที่อยากกู้ก้อนใหญ่กว่าเดิม
ธนาคารจะมองเห็นว่าคุณเคยจัดการหนี้ได้ดี
โอกาสอนุมัติก็จะง่ายขึ้นกว่าคนที่ไม่เคยมีประวัติอะไรเลย หรือมีแต่ประวัติเสีย


สรุป มองเงินกู้ให้เป็นเครื่องมือของคนทำงานอิสระ

สุดท้ายแล้ว เงินกู้สำหรับฟรีแลนซ์ ไม่ใช่ศัตรู
และก็ไม่ใช่ของที่ทุกคนต้องใช้

มันคือเครื่องมือทางการเงินชิ้นหนึ่ง
ที่จะมีประโยชน์มาก ถ้าใช้ควบคู่กับ

  • การจัดระบบบัญชี

  • การวางแผนรายได้รายจ่าย

  • การมีเงินสำรองฉุกเฉิน

  • ความซื่อสัตย์กับตัวเองเรื่องกำลังผ่อน

ถ้าคุณใช้เงินกู้เพื่อผลักดันงานของตัวเองให้เติบโต
เพิ่มโอกาส เพิ่มรายได้
พร้อมกับรักษาวินัยการเงินให้ดี

อาชีพฟรีแลนซ์ก็ไม่ใช่แค่ทางเลือกชั่วคราว
แต่จะกลายเป็นเส้นทางอาชีพที่มั่นคงได้เหมือนกัน

บทความเกียวข้อง